/
รายละเอียด

4 สาเหตุรถพังและวิธีป้องกัน เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย ไร้ความกังวลในการเดินทาง

สาเหตุปัญหารถพัง

ปัญหา รถพัง เป็นอีกในหลายๆปัญหารถที่ผู้ใช้รถไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ปัญหารถเสีย จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะด้วยในหลากหลายปัจจัยที่อาจจะส่งผลจากการใช้รถใช้ถนนทุกๆวัน ดังนั้นสิ่งที่สามารถกล่าวได้ก็คือ แน่นอนว่าการเดินทางอาจจะมีโอกาสการเกิดเหตุการณ์รถยนต์เสีย ได้

แต่หากมีข้อมูลหรือคำแนะนำที่สามารถทำให้ผู้ใช้รถได้ทำความเข้าใจสาเหตุรถพังและเตรียมตัว ก็จะสามารถสร้างความมั่นใจหรือลดโอกาสการเกิดปัญหารถยนต์ต่างๆได้เป็นอย่างดีรวมถึงการติดต่อ อู่ซ่อมรถใกล้ฉัน เพื่อปรึกษาปัญหาเบื้องต้น และ ขอคำแนะนำในการตรวจสอบเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นขณะขับขี่ได้ทุกเวลา

4 สาเหตุหลักที่ทำให้รถพัง

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมรถที่ใช้อยู่เป็นประจำถึงเกิดปัญหารถพัง ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแบบหนักหน่วง แต่ปัญหารถเสียสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี การละเลยการบำรุงรักษา หรือแม้กระทั่งชิ้นส่วนของรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มาดูกันว่าปัจจัยปัญหารถยนต์หลักๆ ที่อาจทำให้รถยนต์เสีย นั้นมีอะไรบ้าง

1.การบำรุงรักษารถไม่สม่ำเสมอ

การบำรุงรักษารถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากละเลยการตรวจเช็คสภาพรถ หรือไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด อาจส่งผลให้รถพัง เพราะชิ้นส่วนภายในเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การใช้งานรถยนต์ที่ไม่มีการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียและเพิ่มโอกาสในการซ่อมแซมสาเหตุรถพังที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ระบบเบรก ระบบเครื่องยนต์ หรือแม้แต่ระบบช่วงล่างก็จะเสื่อมเร็วขึ้น จากการวิจัยพบว่าหากผู้ขับขี่ไม่หมั่นตรวจเช็ค อาจทำให้มีปัญหารถยนต์อย่างไม่คาดคิด และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ การบำรุงรักษารถไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันความเสียหายรถยนต์เสีย จากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้รถมั่นใจในการเดินทางทุกครั้งด้วย

2.การขับขี่อย่างรุนแรง

หลายครั้งการขับขี่อย่างรุนแรง เช่น การเหยียบคันเร่งจนสุด การเบรกกระทันหันบ่อยครั้ง หรือการเลี้ยวที่ไม่รอบคอบ จะทำให้ระบบต่างๆ ของรถพัง เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น การขับขี่อย่างไม่ระมัดระวังไม่เพียงแต่ทำให้ชิ้นส่วนของรถเสื่อมสภาพ แต่ยังเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนคนอื่นด้วย ยิ่งหากเป็นการขับรถบนถนนที่มีหลุมบ่อหรือทางวิบาก ระบบช่วงล่างก็จะยิ่งได้รับผลกระทบจนรถเสีย การขับขี่อย่างรุนแรงยังส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์และระบบเบรก ทำให้รถยนต์เสียเร็วกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้จึงควรมีการศึกษาวิธีการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีระเบียบ เพื่อรักษาสภาพรถยนต์ให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดปัญหารถยนต์

3.การใช้อะไหล่หรือชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน

การเลือกใช้อะไหล่หรือชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รถพังเร็วขึ้น บางครั้งการประหยัดงบประมาณด้วยการเลือกใช้ชิ้นส่วนที่มีราคาถูก อาจทำให้ชิ้นส่วนนั้นไม่มีคุณภาพและเสื่อมสภาพได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหารถเสียกับระบบต่างๆ ของรถ

เช่น เครื่องยนต์ไม่ทำงาน ระบบไฟฟ้าเกิดปัญหา หรือแม้กระทั่งเบรกไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้อะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและรถยนต์เสีย ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้อะไหล่ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านอะไหล่รถยนต์ใกล้ฉัน เพื่อรักษาความปลอดภัยในการขับขี่และเลี่ยงปัญหาปัญหารถยนต์ หรือรถพัง ในอนาคต

4.ปัญหาระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าของรถยนต์เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญมาก หากรถพังจากระบบไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่เสื่อม หรือสายไฟเกิดการชำรุด อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ จนเกิดปัญหา รถพังกลางถนน หรือแม้แต่ระบบไฟสัญญาณต่างๆ ไม่ทำงาน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่อย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ขับรถในเวลากลางคืน หากไม่มีไฟหน้าและไฟท้ายทำงาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจนรถยนต์เสียหายอย่างแน่นอน การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าให้ดีจะช่วยป้องกันปัญหารถพัง ที่อาจเกิดขึ้นได้ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่น แบตเตอรี่ ฟิวส์ และสายไฟอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4 วิธีป้องกันไม่ให้รถพัง สามารถช่วยยืดอายุการใช้งาน

ระวังสาเหตุที่ทำให้รถพัง

เมื่อเรารู้สาเหตุที่ทำให้รถพัง แล้ว การป้องกันไม่ให้ปัญหารถยนต์เสียเหล่านี้เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพียงแค่หมั่นดูแลรถให้ดีตามวิธีต่างๆ หรือ ค้นหาศูนย์บริการ ร้านซ่อมรถใกล้ฉัน และที่จะกล่าวต่อไปนี้ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมาก และสามารถหลีกเลี่ยงปัญหา รถพังกลางถนน จนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้

1.ตรวจเช็คและบำรุงรักษารถเป็นประจำ

ตรวจเช็คสภาพรถและบำรุงรักษารถเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คเบรก หรือตรวจสอบความพร้อมของยาง การเข้ารับบริการตรวจเช็ครถตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่ หรือรถพังโดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ควรทำตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ 

จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น การตรวจสอบความดันลมยาง ตรวจเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหายางแบนหรือระเบิดระหว่างการขับขี่ จนมีปัญหา รถพังกลางถนน 

2.หลีกเลี่ยงการขับขี่อย่างรุนแรง

การขับขี่อย่างระมัดระวังและใส่ใจสภาพรถจะช่วยรักษาสภาพรถยนต์ให้ใช้งานได้นานขึ้น และสามารถลดความเสี่ยงจากการรถพัง โดยควรหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องอย่างกระทันหัน การเบรกแรงๆ รวมถึงการขับรถบนถนนที่มีสภาพไม่ดี หากจำเป็นต้องขับรถในพื้นที่ที่มีหลุมบ่อ ควรลดความเร็วและขับอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเป็นสาเหตุรถพัง 

อีกทั้งการขับขี่อย่างระมัดระวังยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสัญญาณจราจรและสภาพถนนได้ดียิ่งขึ้น ลดปัญหารถเกิดอุบัติเหตุจนเกิดปัญหารถยนต์เสียหายนอกจากนี้ การฝึกฝนการขับขี่ในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เช่น ฝนตก หรือถนนลื่น ก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่มีประสบการณ์และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย

3.ใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน

เมื่อต้องเปลี่ยนอะไหล่ ควรเลือกใช้อะไหล่ที่ได้มาตรฐานจากผู้ผลิตหรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ ไม่ควรเลือกใช้อะไหล่ราคาถูกที่ไม่มีการรับรองคุณภาพ เพราะการประหยัดเงินในครั้งแรก อาจทำให้ต้องจ่ายค่าซ่อมแซมในภายหลังมากขึ้น จากปัญหารถยนต์เสียหาย

การเลือกใช้อะไหล่ที่ดีจะช่วยให้รถของผู้ใช้งานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ การซื้ออะไหล่จากร้านค้าที่มีชื่อเสียงจะช่วยให้ผู้ใช้รถมั่นใจได้ว่าผู้ใช้รถได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการรับประกันที่ดี หากเกิดปัญหารถพังในกรณีที่เกี่ยวข้องกับปัญหารถยนต์ จะสามารถขอความช่วยเหลือหลังจากรถเสียได้อย่างรวดเร็ว

4.ตรวจสอบระบบไฟฟ้าของรถยนต์

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น แบตเตอรี่ สายไฟ และฟิวส์ ควรทำเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่ารถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหารถเสีย  หรือรถมีกลิ่นเหม็นไหม้ การตรวจสอบแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพอาจทำให้รถไม่สามารถสตาร์ทได้ หากพบว่าแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานมากกว่าสามปี ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่ 

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสัญญาณไฟต่างๆ ภายในรถว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟสัญญาณ หากมีสัญญาณใดที่ไม่ทำงาน ควรรีบทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยน เพื่อป้องกันรถพังในขณะขับขี่ และช่วยให้การขับขี่ในเวลากลางคืนเป็นไปอย่างปลอดภัยไม่เกิดปัญหารถยนต์

ขั้นตอนการแก้ไขเมื่อรถพัง

ผู้ใช้งานเกิดปัญหารถพัง ติดต่ออู่ซ่อมรถใกล้ฉัน

เมื่อเกิดปัญหารถพังให้ติดต่อช่างซ่อมรถทันที เพราะสิ่งสำคัญคือการจัดการกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อรถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ การรู้จักขั้นตอนการแก้ไขที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถฟื้นฟูสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีสติในการตรวจสอบปัจจัยต่างๆ เช่น แบตเตอรี่หมดหรือไม่ หรือรถมีกลิ่นเหม็นไหม้ประกอบด้วยไหม เพื่อลดความเครียดที่มากเกินไปซึ่งอาจเกิดขึ้นจากปัญหารถยนต์ ดังกล่าว ซึ่งขั้นตอนที่ควรดำเนินการมีดังนี้

ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้รถไม่ทำงาน

เมื่อรถของผู้ใช้งานเกิดปัญหารถพัง สิ่งแรกที่ควรทำคือการตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้รถไม่ทำงาน อาจเริ่มจากการเช็คไฟหน้าหรือไฟท้ายว่าทำงานได้หรือไม่ หากไฟไม่ติด อาจเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม หรือมีปัญหาที่ระบบไฟฟ้า รถมีกลิ่นเหม็นไหม้หรือไม่ผู้ใช้รถควรตรวจสอบที่หน้าปัดเพื่อดูสัญญาณเตือนหรือไฟเตือนต่างๆ หากมีการแจ้งเตือนใดๆ เกี่ยวกับระบบเบรก หรือเครื่องยนต์

 ควรจอดรถและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเครื่องยนต์เสียที่รุนแรงขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบระดับน้ำมัน เครื่องยนต์ และระบบน้ำหล่อเย็นเพื่อตรวจสอบว่ามีการรั่วไหลหรือไม่ หากสาเหตุยังไม่ชัดเจน การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญปัญหารถยนต์ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ

หากผู้ใช้รถไม่สามารถระบุสาเหตุของปัญหารถพังได้ด้วยตนเอง หรือหากพบว่าปัญหารถยนต์พังซับซ้อนเกินกว่าจะซ่อมแซมเอง การติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ช่างที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถวินิจฉัยปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

 พร้อมเสนอวิธีการซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย การเลือกช่างที่มีชื่อเสียงหรือมีความเชี่ยวชาญในแบรนด์รถของผู้ใช้รถจะทำให้มั่นใจได้ว่ารถของผู้ใช้รถจะได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี และลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเครื่องยนต์เสียซ้ำซ้อนในอนาคต

บริการลากรถเมื่อรถไม่สามารถขับต่อได้

ในกรณีที่รถพังไม่สามารถขับต่อได้และไม่สามารถซ่อมแซมได้ในที่เกิดเหตุ การใช้บริการรถลากจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การเลือกใช้บริการลากรถที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์จะช่วยให้การขนย้ายรถพังกลางทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ควรสอบถามถึงค่าใช้จ่ายสำหรับบริบทประกอบรายละเอียดรถยนต์เสียหายและระยะเวลาที่ใช้ในบริการรถยก

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้รถจะไม่เกิดความไม่สะดวกในช่วงเวลาที่รถของผู้ใช้รถถูกลากไปซ่อมแซม นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าบริษัทที่ให้บริการมีประกันหรือการรับประกันการบริการ เพื่อให้ผู้ใช้รถมั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดระหว่างการขนย้ายจากรถลากจูง รวมถึงควรตรวจสอบรายละเอียดความเสียหายของตัวรถก่อนใช้บริการ เพื่อความราบรื่นในการทำงานของทั้งสองฝ่าย เช่นสังเกตว่ารถพังเพราะยางรั่วหรือไม่ ต้องมีปัจจัยใดที่ต้องใส่ใจระวังเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง

สรุป

การดูแลรักษารถยนต์ให้มีสภาพดีอยู่เสมอเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่เพียงแต่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำความเข้าใจถึงสาเหตุรถพังและวิธีป้องกัน รวมถึงวิธีซ่อมรถพัง จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเตรียมตัวและดูแลรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้ความกังวลและอย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถของผู้ใช้รถอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทาง และเลี่ยงปัญหา รถพัง

เมื่อรถเสีย 24 Carfix มีบริการช่วยเหลือทุกรูปแบบ สามารถติดต่อปรึกษาปัญหาได้ 24 ชั่วโมง

รถพังระหว่างทาง ติดต่อ 24 Carfix

หากผู้ใช้รถประสบปัญหา รถพังระหว่างการเดินทาง หรือไม่สามารถขับต่อได้เนื่องจากปัญหาสาเหตุรถพังต่างๆ ทาง 24 Carfix พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ใช้รถผู้ใช้รถตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าผู้ใช้รถจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย เรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมออกไปให้บริการผู้ใช้รถทันที เพื่อแก้ไขปัญหารถเสียระบบเบรคมีปัญหา หรือทุกปัจจัยที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้ใช้รถทุกท่าน

4 ข้อดีของการเติมลมไนโตรเจนในยางรถยนต์ รวมถึงสาระสำคัญที่คุณควรรู้ ในปี 2024

แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม 7 สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

ลด แลก แจกคุ้ม สุดครบรอบ 2 ปี